คุณจะออกเดินทางจาก บาเซิล บาดิสเชอร์ บาห์นฮอฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง บาเซิล และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เคอล์น สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เคลิน.
คุณจะออกเดินทางจาก บาเซิล บาดิสเชอร์ บาห์นฮอฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง บาเซิล และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เคอล์น สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เคลิน.
Traveling from Basel to Cologne - An Iconic Journey!
Taking a train from Basel to Cologne is a great way to explore the beauty of Central and Western Europe. This train journey is approximately 4 hours long and spans about 400 km across the cities of Germany, France and Switzerland.
The shortest route is to take the Paris-Strasbourg-Frankfurt line, which will go through some amazing cities, including Basel, Strasbourg, Mannheim, and Frankfurt, before arriving in Cologne. These are all modern, high-speed trains that will provide a safe and enjoyable journey.
You can also make some interesting stops in some iconic places, such as Basel Minster, a magnificent medieval church, and the city center of Strasbourg, a UNESCO world heritage site. The journey will also go through the stunning Rhine Valley before culminating in the wonderful city of Cologne.
At the start of your journey, you will be able to explore Basel's busy railway station and its iconic clock tower. Upon arrival at the Köln (Hauptbahnhof) central station, you will be able to experience its impressive architecture and find a host of great restaurants and attractions.
So if you are looking for a great way to explore Central and Western Europe, take the train from Basel to Cologne for a journey full of iconic sites and a unique experience.
This will be a journey that you will never forget!
บาเซิล เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าสำรวจ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยอาหารสวิสที่แท้จริง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่จะทำให้คุณหลงใหลในทุกมุมมองและรสชาติของบาเซิล
มหาวิหารบาเซิล (Basel Minster) เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ชมภายนอกที่ตกแต่งอย่างสวยงามและเข้าชมภายในเพื่อเห็นงานศิลปะที่งดงาม
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Kunstmuseum Basel) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง สำรวจคอลเลกชันที่มีตั้งแต่ศิลปะสมัยกลางจนถึงผลงานสมัยใหม่
พิพิธภัณฑ์ Tinguely อุทิศให้กับศิลปินชาวสวิส Jean Tinguely ที่เป็นที่รู้จักจากงานประติมากรรมเคลื่อนไหว พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำไรน์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับการเดินเล่นหลังจากชมพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์อารยธรรมโลก (Museum der Kulturen Basel) ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิหารบาเซิล ขึ้นชื่อเรื่องการจัดแสดงที่หลากหลายเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั่วโลก มาที่นี่เพื่อขยายความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของมนุษย์
สะพานมิตเทิลบรุคเก (Mittlere Brücke) เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในบาเซิล สร้างขึ้นเมื่อปี 1226 การเดินเล่นบนสะพานนี้ให้ทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองและแม่น้ำไรน์
สวนพฤกษศาสตร์ (Botanischer Garten der Universität Basel) ให้คุณได้ผ่อนคลายในบรรยากาศที่เงียบสงบ มีพันธุ์พืชนานาชนิด แหล่งเรียนรู้ที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจในด้านพฤกษศาสตร์
เมืองเก่าบาเซิล (Basel’s Old Town) เดินเล่นในเมืองเก่าและสัมผัสกับบ้านเรือนแบบเก่าและร้านค้าที่มีเสน่ห์ อย่าลืมลิ้มลอง เค้ก Basler Läckerli ขนมแบบดั้งเดิมของบาเซิล
การเดินทางรอบ บาเซิล จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้สัมผัสกับการผสมผสานของวัฒนธรรม, การต้อนรับที่อบอุ่น, และภูมิทัศน์ที่งดงาม ทุกมุมของบาเซิลมีเรื่องราวที่รอคุณมาค้นหา
เคลิน ไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมของศิลปะสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ทำให้เป็นหนึ่งในเมืองที่น่าเยือนอย่างยิ่งในยุโรป
โบสถ์โคโลญจ์ (Kölner Dom): โบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเคลิน เป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพของพระมหากษัตริย์สามสิบกษัตริย์ โบสถ์เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00 - 19:30 น. ค่าเข้าชมฟรี แต่มีค่าบริการปีนเขาเพื่อชมวิวจากยอดเสา
พิพิธภัณฑ์ Ludwig: พิพิธภัณฑ์ที่โดดเด่นด้วยคอลเลคชันของงานศิลปะสมัยใหม่ รวมถึงผลงานของ พิคัสโซ่ และ แอนดี้ วอร์ฮอล ตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์โคโลญจ์ เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ค่าเข้าชม €12
อาคาร 4711: จุดเริ่มต้นของน้ำหอม Eau de Cologne ที่โด่งดังทั่วโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่ขายน้ำหอม แต่ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติและการผลิตน้ำหอม อยู่ใจกลางเมืองเคลิน
สะพาน Hohenzollern: สะพานข้ามแม่น้ำไรน์ที่มีชื่อเสียง จุดที่เหมาะแก่การถ่ายภาพและแขวนกุญแจรัก ให้วิวทิวทัศน์ของเมืองและโบสถ์โคโลญจ์ที่สวยงาม
โรงเบียร์ Früh am Dom: ลิ้มลอง Kölsch, เบียร์ท้องถิ่นของเคลิน ที่โรงเบียร์แห่งนี้ ซึ่งให้บรรยากาศเยอรมันแท้ๆ และอาหารพื้นเมืองที่อร่อยเยี่ยม
วิทยาลัย Wallraf-Richartz: พิพิธภัณฑ์ที่มีผลงานศิลปะยุโรปตั้งแต่ยุคกลางจนถึงสมัยบาโรก อัดแน่นด้วยผลงานของหลากหลายศิลปินชั้นนำ
สวน Flora und Botanischer Garten: สวนพฤกษศาสตร์ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และเดินเล่นในบรรยากาศที่สงบ
การเดินทางรอบเมืองเคลินจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง แนะนำให้ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3-4 วันในการสำรวจเมืองนี้อย่างละเอียด
ใจกลางบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่สถานีรถไฟหลักที่มีชื่อว่า Basel SBB ซึ่งเป็นประตูสู่การเดินทางข้ามชาติไปยังเยอรมนีและฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีสถานี Basel Badischer Bahnhof ที่รับผิดชอบการเดินทางไปยังเยอรมนีโดยตรง และสถานี Basel St. Johann ซึ่งให้บริการเส้นทางภายในเมืองและภูมิภาค
สถานี Basel SBB ตั้งอยู่ที่ Centralbahnplatz 1, 4051 Basel, เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:30 ถึง 01:30 น. เพื่อความสะดวกของผู้โดยสาร บริการเก็บกระเป๋า มีให้บริการที่สถานี โดยมีตัวเลือกทั้งระบบอัตโนมัติและบริการจากพนักงาน ซึ่งช่วยให้ผู้เดินทางสามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวในเมืองได้อย่างไร้กังวล
เคลิน ซึ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อันน่าค้นหาใน ยุโรป มีสถานีรถไฟหลักที่เรียกว่า สถานีรถไฟเคลินกลาง (Kleinn Central Station) เป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญซึ่งเชื่อมต่อกับเส้นทางไปยังเมืองใหญ่ๆ อื่นๆ ในยุโรป นอกจากนี้ยังมี สถานีรถไฟเคลินตะวันออก และ สถานีรถไฟเคลินตะวันตก ซึ่งโดยมากให้บริการเส้นทางภายในประเทศหรือเส้นทางระยะสั้นไปยังเมืองใกล้เคียง
ที่ สถานีรถไฟเคลินกลาง ตั้งอยู่ที่ พลาตซ์ เดอ ไลเบอร์เต มีเวลาทำการตั้งแต่เวลา 05:00 น. ถึง 23:00 น. ทุกวัน นอกจากนี้ที่สถานียังมีบริการให้เก็บกระเป๋า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บสัมภาระชั่วคราวเพื่อท่องเที่ยวในเมืองหรือรอเวลาเดินทางต่อโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าที่หนักหรือไม่สะดวกในการพกพา
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ