คุณจะออกเดินทางจาก เบรเมิน เฮาน์บอร์ฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง เบรเมิน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เคอล์น สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เคลิน.
คุณจะออกเดินทางจาก เบรเมิน เฮาน์บอร์ฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง เบรเมิน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เคอล์น สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เคลิน.
A Trip from Bremen to Cologne: Exploring Germany's Rail Network!
Travelling by train from Bremen to Cologne is one of the most iconic journeys of the German railway network. This route takes you along the Rhine River and offers picturesque views of the riverbanks, cities, and towns as you pass through the country. The total distance from Bremen to Cologne is about 300 km and the shortest journey time typically lasts about three hours.
During this journey, you will pass through some of Germany's most important cities, such as Osnabrück, Bielefeld, and Dortmund. In the city of Osnabrück, you should make sure to explore the historic old town and the cathedral. In Bielefeld, you should visit the old market square, and in Dortmund you can visit the famous Westfalenpark.
Another iconic item you can find during your journey is the Rhine River. Along the way, you will be able to explore some of the picturesque villages that line the banks of this historic river, as well as see the famous Loreley rock.
At the end of your journey, you'll arrive at the main train station in Cologne Hauptbahnhof, where you can explore the city's vibrant and diverse culture. Make sure to check out the stunning Gothic architecture of the city's cathedral, or take a stroll along the Rhine riverwalk.
A trip from Bremen to Cologne is a great way to explore Germany's rail network and see the best of what the country has to offer.
With picturesque views, interesting cities, and iconic landmarks, this journey will be a memorable experience!
เบรเมิน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งในเยอรมนี ที่นี่ไม่เพียงแต่มีสถานที่หลักๆ ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตเท่านั้น แต่ยังมีอาหารท้องถิ่นที่ไม่ควรพลาดอีกด้วย
ศาลาว่าการเบรเมิน - มรดกโลกยูเนสโกที่ประดับประดาด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนสซองซ์และโกธิค, ตั้งอยู่ที่ Marktplatz, เปิดทุกวัน 10:00-15:00, ค่าเข้าชม €5. ควรจองล่วงหน้าเพื่อเข้าชมห้อง Rathaus. รูปปั้นนักดนตรีบรีเมน - สัญลักษณ์ของเมือง, ตั้งอยู่ใกล้ศาลาว่าการเบรเมิน, ไม่เสียค่าเข้าชม. ควรถ่ายภาพเป็นที่ระลึก. มหาวิหารเซนต์เพเตอร์ - มหาวิหารสไตล์โรมาเนสก์นี้มีมุมมองที่น่าทึ่งจากยอดหอคอย, ตั้งอยู่ที่ Sandstraße, เปิด 10:00-16:00, ค่าเข้าชมหอคอย €3. พิพิธภัณฑ์ Paula Modersohn-Becker - พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่อุทิศให้กับผลงานของ Paula Modersohn-Becker, ตั้งอยู่ที่ Böttcherstraße, เปิด 11:00-18:00, ค่าเข้าชม €7. เครือข่ายผู้สร้างกาแฟ - สถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค, เหมาะสำหรับลิ้มลองกาแฟท้องถิ่นและช๊อกโกแลตร้อน. หอสมุด - สถานที่น่าเยี่ยมชมสำหรับผู้ที่หลงใหลในหนังสือ, ตั้งอยู่ที่ Am Wall, เปิด 10:00-19:00, ไม่เสียค่าเข้าชม. พื้นที่ Schnoor - ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสไตล์เก่าและร้านค้าเล็กๆ ที่เหมาะแก่การเดินชม.การเดินทางไปรอบๆ เบรเมิน เป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานระหว่างความงดงามของสถาปัตยกรรมกับเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น. ทุกมุมของเมืองล้วนมีเรื่องราวและมรดกที่รอให้ค้นหา.
เคลิน ไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมของศิลปะสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ทำให้เป็นหนึ่งในเมืองที่น่าเยือนอย่างยิ่งในยุโรป
โบสถ์โคโลญจ์ (Kölner Dom): โบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเคลิน เป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพของพระมหากษัตริย์สามสิบกษัตริย์ โบสถ์เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00 - 19:30 น. ค่าเข้าชมฟรี แต่มีค่าบริการปีนเขาเพื่อชมวิวจากยอดเสา
พิพิธภัณฑ์ Ludwig: พิพิธภัณฑ์ที่โดดเด่นด้วยคอลเลคชันของงานศิลปะสมัยใหม่ รวมถึงผลงานของ พิคัสโซ่ และ แอนดี้ วอร์ฮอล ตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์โคโลญจ์ เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ค่าเข้าชม €12
อาคาร 4711: จุดเริ่มต้นของน้ำหอม Eau de Cologne ที่โด่งดังทั่วโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่ขายน้ำหอม แต่ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติและการผลิตน้ำหอม อยู่ใจกลางเมืองเคลิน
สะพาน Hohenzollern: สะพานข้ามแม่น้ำไรน์ที่มีชื่อเสียง จุดที่เหมาะแก่การถ่ายภาพและแขวนกุญแจรัก ให้วิวทิวทัศน์ของเมืองและโบสถ์โคโลญจ์ที่สวยงาม
โรงเบียร์ Früh am Dom: ลิ้มลอง Kölsch, เบียร์ท้องถิ่นของเคลิน ที่โรงเบียร์แห่งนี้ ซึ่งให้บรรยากาศเยอรมันแท้ๆ และอาหารพื้นเมืองที่อร่อยเยี่ยม
วิทยาลัย Wallraf-Richartz: พิพิธภัณฑ์ที่มีผลงานศิลปะยุโรปตั้งแต่ยุคกลางจนถึงสมัยบาโรก อัดแน่นด้วยผลงานของหลากหลายศิลปินชั้นนำ
สวน Flora und Botanischer Garten: สวนพฤกษศาสตร์ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และเดินเล่นในบรรยากาศที่สงบ
การเดินทางรอบเมืองเคลินจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง แนะนำให้ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3-4 วันในการสำรวจเมืองนี้อย่างละเอียด
สถานีรถไฟหลักของเบรเมินคือสถานีรถไฟเบรเมินที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อการเดินทางภายในประเทศเยอรมนีและเมืองอื่นๆ ในยุโรป นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟย่อยหลายแห่งภายในเมืองเช่นสถานีรถไฟเบรเมิน-นอร์ดและสถานีรถไฟเบรเมิน-เนอสตราเซที่ให้บริการทั้งรถไฟภูมิภาคและรถไฟเมือง
ที่อยู่ของสถานีรถไฟเบรเมินคือ Bahnhofsplatz 1, 28195 Bremen, เยอรมนี สถานีเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00 น. ถึง 23:30 น. ภายในสถานีมีบริการเก็บกระเป๋าซึ่งทำให้ผู้เดินทางสามารถเก็บสัมภาระได้สะดวกสบายขณะรอเดินทางหรือสำรวจเมือง บริการนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เวลาในเมืองโดยไม่ต้องแบกของหนักๆ
เคลิน ซึ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อันน่าค้นหาใน ยุโรป มีสถานีรถไฟหลักที่เรียกว่า สถานีรถไฟเคลินกลาง (Kleinn Central Station) เป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญซึ่งเชื่อมต่อกับเส้นทางไปยังเมืองใหญ่ๆ อื่นๆ ในยุโรป นอกจากนี้ยังมี สถานีรถไฟเคลินตะวันออก และ สถานีรถไฟเคลินตะวันตก ซึ่งโดยมากให้บริการเส้นทางภายในประเทศหรือเส้นทางระยะสั้นไปยังเมืองใกล้เคียง
ที่ สถานีรถไฟเคลินกลาง ตั้งอยู่ที่ พลาตซ์ เดอ ไลเบอร์เต มีเวลาทำการตั้งแต่เวลา 05:00 น. ถึง 23:00 น. ทุกวัน นอกจากนี้ที่สถานียังมีบริการให้เก็บกระเป๋า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บสัมภาระชั่วคราวเพื่อท่องเที่ยวในเมืองหรือรอเวลาเดินทางต่อโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าที่หนักหรือไม่สะดวกในการพกพา
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ