คุณจะออกเดินทางจาก ดูสิลดอร์ฟ เฮาน์บอร์ฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ดัสเซลดอร์ฟ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ ดูย์สบูร์ก เฮาน์บอร์ฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ Duisburg.
คุณจะออกเดินทางจาก ดูสิลดอร์ฟ เฮาน์บอร์ฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ดัสเซลดอร์ฟ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ ดูย์สบูร์ก เฮาน์บอร์ฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ Duisburg.
Traveling from Düsseldorf to Duisburg by train is a great way to explore Germany's vibrant cities and countryside. The journey takes around 50 minutes on the Düsseldorf-Duisburg Regional Express, with a few stops along the way. The distance between the two cities is about 37 kilometers (23 miles), with an average speed of 41 kilometers per hour (25 miles per hour).
The journey begins at Düsseldorf Train Station and the iconic Rhine Tower can be spotted from the platform. As the train departs, you'll pass through the vibrant city of Essen with its beautiful architecture and historic sites. Then, the train passes through some small towns, like Mülheim an der Ruhr, before arriving at Duisburg Station.
Near the station, travelers can explore Duisburg's old quarter, including the ancient Neuenkamp and Obermeidericher churches. Throughout the journey, you'll spot some stunning German countryside and the Möhne Reservoir, one of the largest in the region.
The Regional Express is the fastest way to make the trip from Düsseldorf to Duisburg, and an ideal way to experience all that Germany has to offer. Plus, you'll get to travel on one of Europe's fastest and most comfortable rail networks. So why not explore Germany and experience an iconic journey by train?
ดัสเซลดอร์ฟ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังของสถาปัตยกรรมทันสมัยและเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเยอรมนี
Altstadt (Old Town)
เป็นหัวใจของเมือง และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ห้องนั่งเล่นที่ยาวที่สุดในโลก" พื้นที่นี้เต็มไปด้วยบาร์ ร้านอาหาร และร้านค้า นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ Kunstpalast ที่มีผลงานศิลปะจากหลายยุคหลายสมัยที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม
Rheinturm
หอคอยที่สูงที่สุดในเมือง มีความสูง 240.5 เมตร บนยอดหอมีจุดชมวิวและร้านอาหาร ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองและแม่น้ำไรน์ได้อย่างงดงาม
Königsallee
ถนนช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดของเยอรมนี เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม คาเฟ่ และห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียม สถานที่นี้ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นที่สำหรับถ่ายภาพที่สวยงามด้วย
Schloss Benrath
พระราชวังสไตล์บารอค ที่สวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสวนที่กว้างขวาง นอกจากจะเป็นที่ชมสถาปัตยกรรมที่งดงามแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะภายในพระราชวังด้วย
St. Lambertus Church
เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์ ด้วยหอคอยที่บิดเบี้ยว โบสถ์แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
MedienHafen
ย่านท่าเรือเก่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานที่ทันสมัยและอาคารที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก เป็นที่ยอดนิยมในการเดินเล่นและถ่ายภาพ
Neanderthal Museum
พิพิธภัณฑ์ที่มุ่งเน้นแสดงเกี่ยวกับมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล และประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ค้นพบโครงกระดูกนีแอนเดอร์ทัลครั้งแรก สถานที่นี้มีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์
การเดินทางรอบ ดัสเซลดอร์ฟ นั้นสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ทั้งรถไฟ รถราง และรถประจำทาง ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่าไปโดยไม่ต้องเสียเวลามาก นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสกับอาหารพื้นเมืองที่หลากหลายอย่างเช่น Altbier ซึ่งเป็นเบียร์ดั้งเดิมของเมืองและเมนู Rhineland ที่เลื่องชื่อ ที่ร้านอาหารท้องถิ่น
Duisburg, located in the North Rhine-Westphalian state of Germany, is a city of great historical and architectural significance that has a lot to offer tourists. From cathedrals and churches to parks and museums, you’ll find plenty of unique sites to explore. Here are the top must-visit historical and architectural sites to check out, as well as some delicious food you can try during your trip.
Duisburg Inner Harbor: A UNESCO World Heritage Site, the Duisburg Inner Harbor combines the best of industrial heritage and modern technology. The visitor center provides an insight into the area’s 19th century steamship trade, as well as the history of the harbor. The harbor is free to visit, and is open all days except Tuesdays.
Duisburg Cathedral: The Gothic cathedral of Duisburg dates back to the year 1300 and is a beautiful example of late medieval architecture. The ornate external decoration of the cathedral, including its stained glass windows, is particularly worth admiring. Admission is free and the cathedral is open from Tuesday to Sunday.
Museum Folkwang: This renowned art museum is home to a vast collection of modern art from around the world. The museum houses both permanent and temporary exhibits, with works by famous artists such as Cezanne, Klee, and Picasso. The museum is open all days except Mondays and admission is free.
Landscape Park Duisburg-Nord: Formerly a steelworks, this modern park is today a vast green space that includes a lake, hills, and a picturesque forest. The park is free to enter and is open all days. It is a perfect spot to relax and enjoy some peace and quiet in the midst of a bustling city.
Kaiserberg Park: This ornamental park is home to a lake, a castle, and a botanical garden, as well as several interesting sculptures. There is also a spectacular view of the city from the park's hill. The park is open all days and admission is free.
Sea Life Oberhausen: Located just outside the city limits, this aquarium is the largest of its kind in Germany, and is home to an impressive collection of aquatic species from around the world. It is open all days and admission fees vary according to the type of ticket purchased.
Duisburg Gourmet Market: This market is the perfect place to try some of the city’s traditional German dishes, such as bratwurst, schnitzel, and spätzle. The market also has a wide selection of drinks and desserts, making it a great place to end a day of sightseeing.
Whether you’re looking to admire the city’s historical and architectural sites, or just looking for a unique culinary experience, Duisburg has something to offer everyone. The sites included on this list represent only a fraction of what the city has to offer, and you’re sure to leave with lots of incredible memories.
ในเมืองดัสเซลดอร์ฟของเยอรมนีมีสถานีรถไฟหลักที่ใหญ่และสำคัญซึ่งคือสถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟเซ็นทรัล (Düsseldorf Hauptbahnhof) นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟขนาดเล็กที่ให้บริการรถไฟภายในเมืองและรถไฟท้องถิ่นอีกหลายแห่ง เช่น สถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟ-เบนราธ (Düsseldorf-Benrath) และสถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟ-เดอร์เรนดอร์ฟ (Düsseldorf-Derendorf) ซึ่งทำให้การเดินทางภายในเมืองและไปยังเมืองใกล้เคียงสะดวกสบายยิ่งขศาน.
สถานีสถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟเซ็นทรัลตั้งอยู่ที่ Konrad-Adenauer-Platz 1, 40210 Düsseldorf, เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:30 น. จนถึง 00:30 น. ที่สถานีนี้มีบริการเก็บกระเป๋า ทำให้ผู้ที่ต้องการเดินทางต่อหรือมาเยือนเมืองเพื่อท่องเที่ยวสามารถฝากสัมภาระไว้ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีบริการต่างๆ เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร และจุดบริการข้อมูลท่องเที่ยวเพื่อความสะดวกสบายของผู้เดินทาง.
Duisburg is located in Germany and has one of the largest train stations in the country, the Duisburg Hauptbahnhof. It covers all rail transport services within the city and provides direct connections to other major stations in the country such as Dusseldorf, Essen and Köln. It is also the starting point of major regional and international lines such as the InterCity Express and EuroNight.
The main station of Duisburg features an information centre with opening hours from Monday to Friday from 8:30am to 7:30pm and Saturdays from 8:30am to 2:30pm. The address of the main station is Obenmarspforten 5, 47051 Duisburg, and the contact telephone number is 49203 784-0. In addition to ticket offices and ATMs, the station also provides services for passengers such as a left luggage office, a luggage cart rental counter and a café.
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ