คุณจะออกเดินทางจาก ฮัมบูร์ก สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ฮัมบูร์ก และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เคบินเฮิน ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ โคเปนเฮเกน.
คุณจะออกเดินทางจาก ฮัมบูร์ก สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ฮัมบูร์ก และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เคบินเฮิน ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ โคเปนเฮเกน.
การเดินทางโดยรถไฟจาก ฮัมบูร์ก ไปยัง โคเปนเฮเกน เป็นเส้นทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและเป็นการผจญภัยที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางโดยรถไฟในยุโรป. การเดินทางเริ่มต้นจาก สถานีฮัมบูร์ก Hauptbahnhof, สถานีรถไฟหลักของเมืองฮัมบูร์ก, ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่ยุ่งที่สุดในเยอรมนี.
ระหว่างการเดินทางที่มีระยะทางประมาณ 460 กิโลเมตร, คุณจะได้ผ่านเมืองสำคัญๆ เช่น เมืองอเดนซ์ และ เมืองรอสกิลเด ในเดนมาร์ก. เมื่อถึง สถานีโคเปนเฮเกน, คุณจะได้พบกับเมืองที่มีสถาปัตยกรรมน่าทึ่งและมรดกวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์.
เส้นทางนี้ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการเดินทางที่รวดเร็วด้วยเวลาเดินทางโดยประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที. การเดินทางโดยรถไฟในยุโรปเป็นทางเลือกที่ยั่งยืน, ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของแต่ละเมืองที่ผ่านไปพร้อมกับความสะดวกสบายของการเดินทาง.
ทั้ง ฮัมบูร์ก และ โคเปนเฮเกน มีเสน่ห์ที่เฉพาะตัว, จากมีอาหารท้องถิ่น, ศิลปะ, และประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย. การเยือนทั้งสองเมืองไม่เพียงแค่เป็นการเดินทาง แต่เป็นประสบการณ์ที่จะตราตรึงใจคุณตลอดไป.
รถไฟจาก ฮัมบูร์ก ไปยัง โคเปนเฮเกน ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางโดยรถไฟระหว่าง ฮัมบูร์ก ถึఆ โคเปนเฮเกน โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 4.5 ถึง 5 ชั่วโมง
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก ฮัมบูร์ก ไปยัง โคเปนเฮเกน โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางที่เร็วที่สุดโดยรถไฟจาก ฮัมบูร์ก ไปยัง โคเปนเฮเกน ใช้เวลาประมาณ 4.5 ชั่วโมง
รถไฟจาก ฮัมบูร์ก ไปยัง โคเปนเฮเกน ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วรถไฟจาก ฮัมบูร์ก ไป โคเปนเฮเกน มีตั้งแต่ประมาณ €40 ถึง €120 ขึ้นอยู่กับชั้นการเดินทางและการจองล่วงหน้า
มีรถไฟวิ่งตรงจาก ฮัมบูร์ก ไปยัง โคเปนเฮเกน หรือไม่?
ใช่, มีรถไฟวิ่งตรงระหว่าง ฮัมบูร์ก และ โคเปนเฮเกน โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟ
ระยะทางจาก ฮัมบูร์ก ไปยัง โคเปนเฮเกน โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางระหว่าง ฮัมบูร์ก และ โคเปนเฮเกน โดยรถไฟประมาณ 460 กิโลเมตร
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก ฮัมบูร์ก ไปยัง โคเปนเฮเกน?
รถไฟจะหยุดที่เมืองหลัก ๆ อาทิ Flensburg, Kolding, และ Odense ก่อนถึง โคเปนเฮเกน
เยือนฮัมบูร์ก—เมืองท่าสุดคลาสสิกแห่งเยอรมนีที่ผสมผสานความทันสมัยกับประวัติศาสตร์อันยาวนานได้อย่างลงตัว เตรียมตัวสำหรับการสำรวจสถานที่สำคัญและลิ้มลองอาหารเมืองนี้ในโอกาสนี้
โบสถ์ St. Michaelis: สัญลักษณ์ของฮัมบูร์กที่ไม่ควรพลาด โบสถ์แห่งนี้เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมบารอก บริเวณสวนหน้าโบสถ์เป็นจุดชมวิวที่วิเศษ ค่าเข้าชมโบสถ์ €5, เปิดทุกวัน 09:00-20:00. ฮัมบูร์ก Rathaus: อาคารรัฐสภาที่สวยงามมากใจกลางเมือง สร้างขึ้นในสไตล์นีโอเรเนสซองซ์ มีการจัดทัวร์ภายในอาคารที่เผยให้เห็นภาพงานศิลปะ ค่าเข้าชมทัวร์ €4, เปิดทุกวัน 10:00-17:00. Speicherstadt: ย่านคลังสินค้าที่เข้าสู่รายชื่อมรดกโลกของยูเนสโก ถนนเรียงรายด้วยอาคารอิฐสีแดงที่เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ต่างๆ สะพานและน้ำท่าเพิ่มเสน่ห์ให้กับย่านนี้อย่างมาก. Elbphilharmonie: หนึ่งในหอคอนเสิร์ตที่ทันสมัยที่สุดในโลก มีจุดชมวิวที่อ่าวฮัมบูร์ก ค่าเข้าชมฟรีสำหรับพื้นที่ชมวิว, คอนเสิร์ตมีราคาแตกต่างกัน. Miniatur Wunderland: จัดแสดงรางรถไฟขนาดเล็กที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใน Speicherstadt ค่าเข้าชม €15, เปิดทุกวัน 09:00-18:00. Planten un Blomen: สวนสาธารณะที่มีสวนพฤกษศาสตร์, น้ำพุเต้นระบำ, และสวนน้ำแข็งในฤดูหนาว เป็นสถานที่เหมาะสำหรับผ่อนคลายกลางแจ้ง ไม่มีค่าเข้าชม, เปิดทุกวัน 07:00-23:00. Alster Lakes: ทะเลสาบสองแห่งในใจกลางเมือง เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การพายเรือ หรือเดินเล่นรอบทะเลสาบ.การเดินทางรอบฮัมบูร์กเป็นการผจญภัยที่ไม่เพียงแต่พาคุณดำดิ่งสู่ความงามของสถาปัตยกรรม แต่ยังช่วยให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ที่แท้จริงของเมืองนี้ด้วย
เดินทางสู่ โคเปนเฮเกน เมืองที่ผสมผสานความงามทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอย่างลงตัว พร้อมสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและอาหารที่ไม่เหมือนใคร
พระราชวังคริสเตียนส์บอร์ฮ์: สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 และเป็นที่ตั้งของรัฐสภา เปิดทุกวัน 10.00-17.00 ค่าเข้าชม €10 คำแนะนำคือเยี่ยมชมห้องสมุดที่งดงามภายในพระราชวัง
พระราชวังอาเมลียนบอร์ก: เป็นที่อยู่อาศัยของราชวงศ์เดนมาร์ก มีสถาปัตยกรรมแบบโรคอคอ ค่าเข้าชม €8 เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ 11.00-16.00
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ: ศูนย์รวมประวัติศาสตร์ของเดนมาร์ก ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เปิดทุกวัน 10.00-17.00 ไม่มีค่าเข้าชม เยี่ยมชมเพื่อศึกษาวัฒนธรรมไวกิ้งและยุคกลาง
โบสถ์มาเบล: ออกแบบในสไตล์บาโรก ประดับด้วยหินอ่อนสี สถานที่นี้เปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ค่าเข้าชม €6 สถานที่นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและสถาปัตยกรรม
สะพานหิน: เชื่อมต่อสองส่วนของเมืองเข้าด้วยกันมองเห็นวิวน่าทึ่งของท่าเรือ มีเส้นทางเดินและจักรยาน คำแนะนำคือเยี่ยมชมในยามพระอาทิตย์ตกดินเพื่อบรรยากาศที่โรแมนติก
พิพิธภัณฑ์ศิลปะนุ่ม: โชว์งานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย ตั้งอยู่ใกล้สวนสาธารณะ เปิดทุกวัน 10.00-18.00 ค่าเข้าชม €12 เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศิลปะสมัยใหม่
เดอะ ราวนด์ ทาวเวอร์: หอสังเกตการณ์ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นในปี 1642 เปิดทุกวัน 10.00-20.00 ค่าเข้าชม €3 แนะนำให้เดินขึ้นหอเพื่อชมวิวเมืองจากมุมสูง
การเดินทางท่องเที่ยวใน โคเปนเฮเกน นั้นสะดวกสบาย ด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ คุณสามารถสัมผัสได้ทั้งความงามทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม รวมถึงลิ้มรสอาหารท้องถิ่นที่แท้จริง
สถานีรถไฟหลักของฮัมบูร์กคือ ฮัมบูร์ก ฮัปต์บาห์น์ฮอฟ (Hamburg Hauptbahnhof) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่มีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดในยุโรป เส้นทางรถไฟจำนวนมากผ่านสถานีนี้ ไปยังเมืองต่างๆ ทั่วยุโรป นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟอื่นๆ ในฮัมบูร์ก เช่น ฮัมบูร์ก-อัลโตนา และ ฮัมบูร์ก ดามทอร์ ซึ่งต่างก็มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงการเดินทางภายในเมืองและไปยังเมืองอื่นๆ
สำหรับฮัมบูร์ก ฮัปต์บาห์น์ฮอฟ ตั้งอยู่ที่Steinstraße 20 มีบริการเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับผู้โดยสารและการเดินทางที่ไม่หยุดนิ่ง นอกจากนี้ยังมีบริการเก็บกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวชมเมืองโดยไม่ต้องแบกสัมภาระติดตัว บริการนี้ช่วยให้การเดินทางในฮัมบูร์ก เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
สถานีรถไฟหลักของโคเปนเฮเกนคือสถานีรถไฟกลางโคเปนเฮเกน (Copenhagen Central Station) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญในเดนมาร์ก นอกจากนี้ยังมีสถานีโนเรพอร์ต (Nørreport Station) และสถานีวีสเตอร์พอร์ต (Vesterport Station) ซึ่งต่างก็มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อการเดินทางในเมือง และรองรับทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน, รถไฟเมือง, และรถบัส
สถานีรถไฟกลางโคเปนเฮเกนตั้งอยู่ที่สแคนดินีเวียน บูลเวิร์ด ซอย 50 และมีเวลาทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 01:00 น. ที่สถานีนี้มีบริการเก็บกระเป๋า ซึ่งเปิดให้บริการหลายชั่วโมงตลอดทั้งวัน ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเก็บสัมภาระไว้ได้อย่างปลอดภัยในขณะที่ไปเที่ยวชมเมือง
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ