คุณจะออกเดินทางจาก มิวนิค สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง มิวนิค และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เจเนวา ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เจนีวา.
คุณจะออกเดินทางจาก มิวนิค สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง มิวนิค และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เจเนวา ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เจนีวา.
Duration and Distance
The total duration of the trip is 6 hours and 31 minutes, with a total distance of 437 miles (703 km) between the two cities.Main Stations
The train departs from Munich Central Station, and arrives at Geneva Station. Midway in Stuttgart, you can change to other connecting trains.Important Cities & Towns Passed
The train will pass through some of Europe's most iconic towns and cities such as Ulm, Augsburg, Lindau, Zurich, and Lausanne.Iconic Items to Look Out For
During the journey, you will have plenty of time to admire the stunning views of the passing countryside. Keep your eyes peeled for some of Europe's most distinctive items, such as the Eiffel Tower in Paris, the Black Forest in Germany, and Mt. Blanc in Switzerland.So take a trip of a lifetime and explore Europe's stunning cities and towns on a thrilling train ride from Munich to Geneva. Enjoy the stunning scenery, and marvel at the many iconic items along the way!
สำรวจเสน่ห์ของ มิวนิค เมืองที่ผสมผสานความงามของศิลปะและประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ซึ่งแนะนำให้เยี่ยมชมอย่างละเอียดดังนี้:
พระราชวังเรสซิเดนซ์ (Residenz München) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นในปี 1385 ที่เคยเป็นที่พำนักของกษัตริย์และจักรพรรดิ์ของบาวาเรียน เปิดทุกวัน 09:00-18:00 ค่าเข้าชม €9. ควรเยี่ยมชมห้องพระบรรทมและห้องประทับต่างๆ เพื่อสัมผัสความหรูหราของศตวรรษที่ผ่านมา. โบสถ์เฟราเอ็นคิร์เช่ (Frauenkirche) ดีไซน์สถาปัตยกรรมกอธิคที่เด่นชัด เป็นโบสถ์ประจำมิวนิคที่สร้างในศตวรรษที่ 15 อยู่ใจกลางเมือง ไม่มีค่าเข้าชม และเปิดทุกวันตั้งแต่ 07:30-18:30 ขึ้นไปชมวิวจากยอดเขาเพื่อเห็นทัศนียภาพมิวนิคแบบ 360 องศา. สวนอังกลิสช์การ์เท็น (Englischer Garten) หนึ่งในสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีพื้นที่กว่า 370 ไร่ เหมาะสำหรับการเดินเล่น ปิกนิก หรือแม้แต่เรือใบ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าเข้าชม. พิพิธภัณฑ์เดอัลเทสปินาโคเทค (Alte Pinakothek) แหล่งรวมผลงานศิลปะจากช่วงศตวรรษที่ 14-18 ตั้งอยู่ที่ Barer Str. 27, เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ จาก 10:00-18:00 ค่าเข้าชม €7. แนะนำให้ชมผลงานของ Rembrandt และ Rubens. มารีเอนพลาทซ์ (Marienplatz) เป็นจัตุรัสหลักของมิวนิค มีตลาดหลากหลายและเป็นจุดจัดงานเทศกาลต่างๆ สำคัญที่สุดคือ โกล๊อคเอนชปีล หรือนาฬิกาที่มีตุ๊กตาเต้นรำทุกๆ ชั่วโมง. ประตูวิคตอเรีย (Victory Gate) ตั้งอยู่ที่ Leopoldstrasse สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามเฟรนโก-พรัสเซีย สัญลักษณ์แห่งความสง่างามและชัยชนะ. เดอุช์ส เมือซี่ยม (Deutsches Museum) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเกาะบนแม่น้ำอิซาร์ มีการจัดแสดงที่หลากหลายตั้งแต่เรือบินไปจนถึงหุ่นยนต์ เปิดทุกวัน 09:00-17:00 ค่าเข้าชม €14.การเดินทางในมิวนิคนั้นสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ เช่น รถไฟใต้ดิน (U-Bahn) รถราง (Tram) และรถบัส ทำให้เดินทางไปยังจุดต่างๆ ได้โดยไม่มีความยุ่งยาก.
เจนีวา เมืองแห่งแม่น้ำโรนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมจากยุคกลางจนถึงยุคใหม่ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์.
พิพิธภัณฑ์แห่งอาร์ตและประวัติศาสตร์ (Musée d'Art et d'Histoire): หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดใน เจนีวา และมีคอลเลกชันศิลปะที่หลากหลายตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงสมัยใหม่ สถานที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ค่าเข้าชมฟรี. มหาวิหารเซนต์ปีแยร์ (St. Pierre Cathedral): มหาวิหารหลักของ เจนีวา ที่มีประวัติยาวนานมากกว่า 850 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคและโรมานเอสก์ เปิดทุกวัน และมีการเปิดให้เข้าชมภายในฟรี. พาเลส เดส เนชั่นส์ (Palais des Nations): อาคารที่เป็นศูนย์กลางการทำงานของสหประชาชาติ นอกจากความสำคัญทางการเมืองแล้ว ยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Art Deco การเยี่ยมชมต้องจองล่วงหน้า. น้ำพุเจนีวา (Jet d'Eau): หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุสูง 140 เมตร ตั้งอยู่ที่ท่าเรือ Eaux-Vives ไม่มีค่าเข้าชม และเป็นจุดที่สามารถชมวิวของเมืองได้อย่างงดงาม. สวนอังกฤษ (Jardin Anglais): สวนสาธารณะที่มีความสวยงามตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำเลคจากเนปเชอร์ สวนนี้เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้และประติมากรรมต่างๆ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน. ตลาดเมืองเก่า (Marché de la Vieille Ville): ตลาดที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าขายอาหารท้องถิ่นและสินค้าฝีมือ มีเสน่ห์ด้วยบรรยากาศย้อนยุค เปิดทุกวันเสาร์ทั้งวัน. พิพิธภัณฑ์พาเทค ฟิลิป (Patek Philippe Museum): พิพิธภัณฑ์นาฬิกาที่เล่าเรื่องราวของการผลิตนาฬิกาใน เจนีวา และแสดงนาฬิกาโบราณที่มีค่าที่สุดในโลก ค่าเข้าชม 10€.การเดินทางรอบ เจนีวา จะให้ความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย ทำให้ทุกมุมของเมืองมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร และเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ท้าทายการค้นหา.
มิวนิค หนึ่งในเมืองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของ เยอรมนี มีสถานีรถไฟหลักที่เรียกว่า München Hauptbahnhof นอกจากนี้ยังมีสถานีสำคัญอื่นๆ เช่น München Ostbahnhof และ München Pasing ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางไปยังหลายส่วนของเมืองและประเทศใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย
สถานีเหล่านี้ถือเป็นจุดหมุ่นของการเดินทางทางรถไฟในยุโรป
สถานี München Hauptbahnhof ตั้งอยู่ที่ Bahnhofplatz 1, 80335 München, เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 00:00 น. ถึง 24:00 น. ที่นี่มีบริการ เก็บกระเป๋า ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกสัมภาระไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีบริการตั๋วรถไฟ, ร้านอาหาร, และร้านค้าที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว
เจนีวา มีสถานีรถไฟหลักที่ใหญ่และสำคัญที่สุดคือ Gare Cornavin นอกจากนี้ยังมีสถานีรองอื่นๆ เช่น Genève Eaux-Vives และ Genève Sécheron ที่ให้บริการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและเมืองที่สำคัญอื่นๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ และต่างประเทศ ซึ่งเชื่อมต่อคมนาคม อย่างมีประสิทธิภาพต่อทั้งภายในและระหว่างประเทศ
สถานี Gare Cornavin ตั้งอยู่ที่ Place de Cornavin, 1201 Genève ให้บริการเวลาทำการที่ยืดหยุ่นตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่เดินทางไปมา นอกจากนี้ยังมีบริการเก็บกระเป๋า ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกของหนักๆ ติดตัว สถานีนี้ให้บริการครบครัน ซึ่งรวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ใช้บริการ
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ