คุณจะออกเดินทางจาก ฟิเรนเซ เซ็นตา มาเรีย โนเวลลา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ฟลอเรนซ์ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ อามัลฟี ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ อะมัลฟี.
คุณจะออกเดินทางจาก ฟิเรนเซ เซ็นตา มาเรีย โนเวลลา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ฟลอเรนซ์ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ อามัลฟี ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ อะมัลฟี.
เดินทางสู่อะมัลฟีผ่านเส้นทางมนต์เสน่ห์ของอิตาลี: จากฟลอเรนซ์สู่อะมัลฟี
การเดินทางโดยรถไจจากฟลอเรนซ์ไปยังอะมัลฟีนั้นเต็มไปด้วยความงดงามของทัศนียภาพและเมืองที่สำคัญที่คุณจะได้พบระหว่างทาง นักเดินทางจะออกเดินทางจากสถานีฟลอเรนซ์ซานตามาเรียโนเวลลาและมุ่งหน้าไปยังนาโปลีก่อนที่จะเปลี่ยนรถไฟไปยังอะมัลฟี
ระยะทางรวมประมาณ 470 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถไฟที่เร็วที่สุดใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงจากฟลอเรนซ์ถึงนาโปลี หลังจากนั้นต้องเปลี่ยนไปยังรถบัสหรือเรือเฟอร์รี่เพื่อไปยังอะมัลฟี ซึ่งอาจใช้เวลาเพิ่มเติม 1-2 ชั่วโมง
ในการเดินทางครั้งนี้ คุณจะได้ผ่านเมืองโรมที่มีสถานที่สำคัญมากมาย เช่น โคลอสเซียมและน้ำพุเทรวี นอกจากนี้ยังเมืองนาโปลีที่มีชื่อเสียงด้านพิซซ่าและมรดกโลกอย่างปอมเปอี
การสำรวจฟลอเรนซ์และอะมัลฟีนั้นคุณจะได้พบกับงานศิลปะและโบสถ์ที่งดงาม และทัศนียภาพของชายฝั่งอะมัลฟีที่ลือชื่อ
การเดินทางนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่เป็นการสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของอิตาลี ทำให้ทุกโค้งทุกตรอกของเมืองที่คุณได้เยือนนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวและความประทับใจ
รถไฟจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง อะมัลฟี ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางโดยรถไฟต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการเปลี่ยนรถไฟและการรอคอย.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง อะมัลฟี โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางที่เร็วที่สุดคือการใช้รถไฟความเร็วสูงจากฟลอเรนซ์ไปนาโปลี จากนั้นเปลี่ยนไปยังรถไฟสายท้องถิ่น.
รถไฟจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง อะมัลฟี ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วรถไฟโดยประมาณอยู่ระหว่าง €50 ถึง €120 ขึ้นอยู่กับชั้นที่นั่งและการจองล่วงหน้า.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง อะมัลฟี หรือไม่?
ไม่ ทุกเส้นทางโดยรถไฟจะต้องเปลี่ยนรถที่นาโปลี หรือเมืองอื่นในเส้นทาง.
ระยะทางจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง อะมัลฟี โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟประมาณ 480 กิโลเมตร, ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่ใช้.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง อะมัลฟี?
หลักๆ จะหยุดที่ โรม และ นาโปลี, และอาจรวมถึงเมืองอื่นๆ ตามเส้นทาง.
เมืองฟลอเรนซ์เป็นหนึ่งในมุกมณีของอิตาลีที่รังสรรค์ความงามทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง ตั้งแต่ความอลังการของคาทีดรัลไปจนถึงมาสเตอร์พีซของศิลปินระดับโลก ต่อไปนี้คือรายการสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองแห่งนี้:
มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิออเร (Duomo di Firenze): เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่โดดเด่นด้วยหลังคาโดมขนาดใหญ่และการตกแต่งภายในที่อลังการ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มหาวิหารเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10:00-17:00 ค่าเข้าชม €18 แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเข้าชมการเดินทางรอบเมืองฟลอเรนซ์สามารถทำได้ง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพหรือการเดินเท้าเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่แท้จริงของเมือง มีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายรอบๆ จุดท่องเที่ยวที่ให้บริการอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ซึ่งคุณไม่ควรพลาดการลิ้มลองพิซซ่าและเจลาโต้ที่เลื่องชื่อ
อะมัลฟี เมืองต่างจังหวัดที่สงบและมีมนต์ขลังบนชายฝั่งใต้ของ อิตาลี ซึ่งมีทั้งประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ที่นี่เคยเป็นหนึ่งในเมืองท่าที่สำคัญในยุโรป และยังคงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและประวัติศาสตร์
มหาวิหารอะมัลฟี (Cattedrale di Sant'Andrea)
ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มหาวิหารสไตล์โรมาเนสก์-บาโรกนี้เป็นที่เก็บพระสังขี้และมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 เปิดให้เข้าชมทุกวัน, ค่าเข้า 3€, แนะนำให้เยี่ยมชมในตอนเช้าเพืู่อหลีกเลี่ยงฝูงชน
หอคอยนาเวลลา (Torre della Ziro)
เคยเป็นหอสังเกตการณ์ มอบทัศนียภาพที่สวยงามของอะมัลฟีและทะเล เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ไม่มีค่าเข้าชม, เดินเท้าจากใจกลางเมืองประมาณ 30 นาที
สวนสาธารณะบายาเดย์อิงลิซี (Parco della Rimembranza)
สวนที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและเพลิดเพลินกับความสงบ มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองและทะเล ไม่มีค่าเข้าชม, เปิดทุกวัน
พิพิธภัณฑ์กระดาษอะมัลฟี (Museo della Carta)
แสดงวิวัฒนาการและประวัติของการทำกระดาษในอะมัลฟี, เปิดทุกวัน 10:00-18:30, ค่าเข้าชม 4€, แนะนำให้ไปชมการสาธิตการทำกระดาษแบบดั้งเดิม
วัลเลเดย์มูลินี (Valle dei Mulini)
หุบเขาลึกที่เต็มไปด้วยโครงการน้ำเข็มและโรงงานกระดาษเก่า อุดมไปด้วยธรรมชาติและเหมาะสำหรับเดินป่า, เปิดทุกวัน, เข้าชมฟรี
โบสถ์ซันตามาเรียอัสซุนต้า (Chiesa di Santa Maria Assunta)
โบสถ์ที่มีเพดานฝ้าสวยงามและภาพฝาผนัง, เปิดทุกวัน, ค่าเข้าชม 2€, เยี่ยมชมเพื่อสัมผัสกับศิลปะศาสนาของอิตาลี
อุโบสถอาจิเนนเซ่ (Arco Naturale)
หินโค้งธรรมชาติที่สวยงาม สามารถเดินทางจากเมืองประมาณ 45 นาที สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมพระอาทิตย์ตก ไม่มีค่าเข้าชม
การเดินทางในอะมัลฟีนั้นค่อนข้างง่ายด้วยการเดินเท้าหรือโดยเรือโดยรอบชายฝั่ง สามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเมืองได้อย่างเต็มที่ อย่าลืมลิ้มลองอาหารท้องถิ่น เช่น ริซอตโต้ซึ่งเป็นข้าวอิตาลีที่ปรุงด้วยปลาหรืออาหารทะเล
สถานีรถไฟหลักของฟลอเรนซ์คือ ฟลอเรนซ์ ซานตา มาเรีย โนเวลลา (Firenze Santa Maria Novella) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญของเมือง นอกจากนี้ยังมีสถานีอื่นๆ เช่น ฟลอเรนซ์ คัมโป ดิ มาร์เต และ ฟลอเรนซ์ ริฟเรดี้ ที่ให้บริการเชื่อมต่อไปยังหลายพื้นที่ในเมืองและพื้นที่โดยรอบเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางผู้เดินทางสามารถใช้บริการรถไฟเหล่านี้ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
สถานี ฟลอเรนซ์ ซานตา มาเรีย โนเวลลา ตั้งอยู่ที่ Piazza della Stazione, 50123 Firenze, พร้อมให้บริการตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 01:30 น. ทุกวันบริการเก็บกระเป๋าที่สถานีนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกรับภาระของสัมภาระ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้การเดินทางภายในฟลอเรนซ์และการเชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในอิตาลีเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย
ในการเดินทางสู่เมืองอะมัลฟี ที่สุดแสนจะโรแมนติก สถานีรถไฟหลักที่นักท่องเที่ยวใช้บ่อยคือสถานี Salerno ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก อะมัลฟี เพียงแค่ 23 กิโลเมตร จากนั้นสามารถต่อรถบัสหรือเรือเฟอร์รี่มายังเมือง อะมัลฟี ในขณะที่เมืองอะมัลฟีเองไม่มีสถานีรถไฟในเขตเมือง การเดินทางโดยรถไฟมายังสถานี Salerno จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายและเปี่ยมไปด้วยความสวยงามของทิวทัศน์ตลอดเส้นทางเชื่อมต่อกับเมืองใกล้เคียง อย่างเช่น โปซิตาโน และเกาะคาปรี.
สำหรับสถานี Salerno, ตั้งอยู่ที่ Piazza della Concordia, 84123 Salerno SA, ประเทศอิตาลี. สถานีนี้เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 01:30 น. ที่สถานีมีบริการเก็บกระเป๋า ซึ่งสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวชมเมืองโดยไม่ต้องห่วงเรื่องกระเป๋าเดินทาง. นอกจากนี้ยังมีบริการร้านค้า, ร้านอาหาร, และคาเฟ่เพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนหย่อนใจระหว่างเดินทาง.
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ