คุณจะออกเดินทางจาก สตราสบูร์ก ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง สตราสบูร์ก และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ มูลฮัวส์ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ มูลเฮาส์.
คุณจะออกเดินทางจาก สตราสบูร์ก ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง สตราสบูร์ก และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ มูลฮัวส์ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ มูลเฮาส์.
The journey from Strasbourg to Mulhouse begins at the Strasbourg Rail Station. This iconic building features a unique neo-Romanesque style of architecture, offering riders a glimpse of the past as they depart. As the train continues south, riders will pass through some of the most iconic cities in the region, such as Wissembourg, Sélestat, and Haguenau.
Those looking for an unforgettable experience can stop off in Colmar, before continuing to Mulhouse. This picturesque town is the birthplace of famous painter and sculptor August Scholtis. Unfortunately, there is not enough time to explore the whole city, but travelers can still marvel at the shared architectural style in the buildings before hopping back on the train.
Finally, the train arrives in Mulhouse, the 4th largest city in Alsace, and home to almost 113,000 people. The city's most iconic building is the Saint-Étienne Cathedral, also known as the "Cathedral of Mulhouse". Here, travelers can admire the spectacular stained glass windows, as well as the intricate Romanesque frescoes.
Whether you're a tourist looking to explore this amazing region, or a local wishing to visit friends and family, a journey from Strasbourg to Mulhouse is a great way to see the wonders of the Alsace region. The trip offers breathtaking views, taking passengers through the rich history of the region. So pack your bags and take a ride on the rails to make the most of this unforgettable journey!
สำรวจสตราสบูร์ก เมืองที่อยู่ริมแม่น้ำไรน์ในภาคตะวันออกของฝรั่งเศส ซึ่งมีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวา ต่อไปนี้คือสถานที่ไม่ควรพลาดเมื่อคุณมาเยือน:
มหาวิหาร Notre-Dame de Strasbourg: โบสถ์แบบโกธิคยิ่งใหญ่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,000 ปี มีชื่อเสียงด้วยหน้าต่างสตนเนอร์ใหญ่และนาฬิกาดาราศาสตร์ที่น่าทึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง การเยี่ยมชมนั้นฟรี และเปิดให้บริการทุกวันจากเวลา 07:00 ถึง 19:00 น.
La Petite France: ย่านเก่าแก่ที่มีบ้านไม้สมัยกลางและคลองที่ทอดยาว ที่นี่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและถ่ายภาพ บริเวณนี้เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายรูป และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม.
พิพิธภัณฑ์ Alsace: สำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของภูมิภาค Alsace พิพิธภัณฑ์นี้เปิดบางวันตามฤดูกาล ค่าเข้าชมอยู่ที่€6 และตั้งอยู่ในระยะเดินจาก La Petite France.
พระราชวังโรห์อัง: พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่อยู่ในพระราชวังที่สวยงาม จัดแสดงผลงานศิลปะจากยุคกลางจนถึงยุคสมัยใหม่ ค่าเข้าชม€11 และเปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์.
อาคารสภายุโรป: สัมผัสบรรยากาศการเมืองของยุโรปในอาคารโมเดิร์น ที่สำคัญนี้ การเข้าชมต้องจองล่วงหน้า.
อาคาร Place Kléber: จัตุรัสหลักของเมืองที่เต็มไปด้วยร้านค้าและเรือนแก้ว สถานที่นี้ซึ่งมักจัดงานต่างๆ นับเป็นหัวใจของเมือง.
Parc de l'Orangerie: สวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ตั้งอยู่ใกล้กับสภายุโรป เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและเพลิดเพลินกับธรรมชาติ.
การเดินทางรอบสตราสบูร์กนั้นง่ายดายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ หรือคุณสามารถเช่าจักรยานเพื่อสำรวจย่านเมืองเก่าได้อย่างใกล้ชิด อย่าลืมลิ้มรสซูเคราต อาหารพื้นเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว!
เมืองมูลเฮาส์ เป็นเมืองที่สะท้อนความสง่างามทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในหุบเขาของเทือกเขาโว้กส์ ที่เต็มไปด้วยอุตสาหกรรมผ้าและการทอที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ มูลเฮาส์เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและศิลปะ
พิพิธภัณฑ์รถยนต์มูลเฮาส์ (Cité de l'Automobile) - พิพิธภัณฑ์รถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นบ้านของคอลเลกชันรถยนต์ Bugatti และ Rolls-Royce ที่น่าประทับใจ ตั้งอยู่ที่ 192 Avenue de Colmar, เปิดทุกวัน 10:00-18:00 ค่าเข้าชม €14 พิพิธภัณฑ์ผ้าและการทอ (Musée de l'Impression sur Étoffes) - สำรวจประวัติศาสตร์การทอผ้าที่โด่งดังของมูลเฮาส์ เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์, ค่าเข้าชม €10 พิพิธภัณฑ์ไฟฟ้า EDF Electropolis - พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของไฟฟ้า ที่ตั้ง 55 Rue du Pâturage, เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ และวันอาทิตย์ ค่าเข้าชม €9 โบสถ์แซ็งต์-เอเตียนน์ - โบสถ์เก่าแก่ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพู และมีหน้าต่างกระจกสีที่สวยงาม ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่มีค่าเข้าชม พิพิธภัณฑ์ล้างปืนมูลเฮาส์ (Musée Mémorial du Linge) - จัดแสดงเกี่ยวกับการต่อสู้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ตั้งอยู่ที่ Orbey, เปิดทุกวัน 09:30-18:00 ค่าเข้าชม €6 ทาวน์ฮอลล์มูลเฮาส์ - อาคารที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนซองส์ฝรั่งเศส ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเยี่ยมชมภายนอกได้ เทมเปิลแซ็งต์-ฌอง - โบสถ์ประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญต่อชุมชนโปรเตสแตนต์ในมูลเฮาส์ ตั้งอยู่เลขที่ 19 Rue de la Sinneการเดินทางไปรอบเมืองมูลเฮาส์เป็นประสบการณ์ที่จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับสัมผัสที่ลึกซึ้งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวเสนอมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ จะเปิดเผยถึงความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมในอดีต ทำให้การเยี่ยมชมมูลเฮาส์เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
สถานีรถไฟหลักของสตราสบูร์ก คือ Gare de Strasbourg-Ville เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัฟ่พร้อมกับบริการรถไฟที่ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ เช่น ปารีส, ฟรังก์เฟิร์ต และบาเซิล นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อกับรถไฟท้องถิ่นและระยะไกลอื่นๆ เช่น TER Grand Est ที่เชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคอัลซัสและโลรีน
ที่อยู่ของสถานี Gare de Strasbourg-Ville อยู่ที่ Place de la Gare, 67000 Strasbourg, France สถานีเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 01:30 น. สถานีนี้ยังมีบริการเก็บกระเป๋า ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องหอบกระเป๋าหนักๆ ติดตัวไปมา
มูลเฮาส์ เป็นเมืองที่มีความสำคัญในการเชื่อมต่อการเดินทางโดยรถไฟใน ยุโรป สถานีรถไฟหลักของเมืองนี้คือ สถานีรถไฟมูลเฮาส์ ซึ่งให้บริการเส้นทางไปยังหลายเมืองสำคัญในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟรอง ที่ให้บริการเชื่อมต่อภายในเมืองและพื้นที่ใกล้เคียง ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสาร
ที่อยู่หลักของ สถานีรถไฟมูลเฮาส์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้เข้าถึงได้ง่ายและเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญ เวลาทำการ ของสถานีเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05:00 น. ถึง 23:00 น. ทำให้สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางในเวลาต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีบริการเก็บกระเป๋า ที่สถานีซึ่งช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเก็บสัมภาระไว้ได้อย่างปลอดภัยระหว่างเดินทาง
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ