คุณจะออกเดินทางจาก เคอล์น สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง เคลิน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ คาร์ลสรูอ์เฮ สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ คาร์ลสรูอี.
คุณจะออกเดินทางจาก เคอล์น สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง เคลิน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ คาร์ลสรูอ์เฮ สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ คาร์ลสรูอี.
Exploring Germany by Train: An Excursion from Cologne to Karlsruhe!
Embark on an exciting journey from Cologne to Karlsruhe by train with this guide. Taking the shortest route with a duration of 2 hours, you will pass by many important cities and towns as you make your way south.
Starting your journey from Cologne's Hauptbahnhof station, you will be thrust right into the heart of the city. The iconic red-brick Cologne Cathedral can be seen as you depart, standing proud over the city. Soon you will be heading south-west. Within the hour you will have reached the town of Siegburg, where you can see the ruins of Burg Siegburg castle, located on a hill surrounded by lush forests.
Continuing south, you will pass through St. Goar and eventually Mainz, the capital of Rhineland-Palatinate. After about an hour and a half, you will arrive at Mannheim, an important international port city situated on the banks of the Rhine river. Shortly after, you will reach your destination, Karlsruhe's Hbf (main station), where the iconic Karlsruhe Palace can be seen standing tall.
A journey from Cologne to Karlsruhe by train is an exciting and convenient way to explore Germany. With a distance of 300 kilometers, you can experience a wide variety of cities and towns in a short amount of time.
So why not plan a trip today and experience the culture and beauty of Germany?
เคลิน ไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมของศิลปะสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ทำให้เป็นหนึ่งในเมืองที่น่าเยือนอย่างยิ่งในยุโรป
โบสถ์โคโลญจ์ (Kölner Dom): โบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเคลิน เป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพของพระมหากษัตริย์สามสิบกษัตริย์ โบสถ์เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00 - 19:30 น. ค่าเข้าชมฟรี แต่มีค่าบริการปีนเขาเพื่อชมวิวจากยอดเสา
พิพิธภัณฑ์ Ludwig: พิพิธภัณฑ์ที่โดดเด่นด้วยคอลเลคชันของงานศิลปะสมัยใหม่ รวมถึงผลงานของ พิคัสโซ่ และ แอนดี้ วอร์ฮอล ตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์โคโลญจ์ เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ค่าเข้าชม €12
อาคาร 4711: จุดเริ่มต้นของน้ำหอม Eau de Cologne ที่โด่งดังทั่วโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่ขายน้ำหอม แต่ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติและการผลิตน้ำหอม อยู่ใจกลางเมืองเคลิน
สะพาน Hohenzollern: สะพานข้ามแม่น้ำไรน์ที่มีชื่อเสียง จุดที่เหมาะแก่การถ่ายภาพและแขวนกุญแจรัก ให้วิวทิวทัศน์ของเมืองและโบสถ์โคโลญจ์ที่สวยงาม
โรงเบียร์ Früh am Dom: ลิ้มลอง Kölsch, เบียร์ท้องถิ่นของเคลิน ที่โรงเบียร์แห่งนี้ ซึ่งให้บรรยากาศเยอรมันแท้ๆ และอาหารพื้นเมืองที่อร่อยเยี่ยม
วิทยาลัย Wallraf-Richartz: พิพิธภัณฑ์ที่มีผลงานศิลปะยุโรปตั้งแต่ยุคกลางจนถึงสมัยบาโรก อัดแน่นด้วยผลงานของหลากหลายศิลปินชั้นนำ
สวน Flora und Botanischer Garten: สวนพฤกษศาสตร์ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และเดินเล่นในบรรยากาศที่สงบ
การเดินทางรอบเมืองเคลินจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง แนะนำให้ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3-4 วันในการสำรวจเมืองนี้อย่างละเอียด
ยินดีต้อนรับสู่คาร์ลสรูอี เมืองที่เต็มไปด้วยความงดงามทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางแห่งเยอรมนี ความงามของเมืองนี้เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในศิลปะและประวัติศาสตร์
ปราสาทคาร์ลสรูเฮ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของเมือง มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุด ปราสาทแห่งนี้มีความเก่าแก่และมีสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นทัศนียภาพเมืองคาร์ลสรูอีได้ชัดเจน เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ค่าเข้าชมคือ 8€ มหาวิหารสเตฟานส์ดอม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงดงามทางสถาปัตยกรรม มหาวิหารแห่งนี้มีเสาหินแกะสลักที่น่าประทับใจ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ยุคกลาง เปิดทุกวันตั้งแต่ 08:00-18:00 น. ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม พิพิธภัณฑ์ศิลปะคาร์ลสรูอี อย่าพลาดเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งเป็นที่เก็บรวบรวมงานศิลปะจากทั่วโลก มีทั้งงานศิลปะสมัยใหม่และงานคลาสสิก ค่าเข้าชมคือ 12€ เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่ 10:00-17:00 น. สวนสาธารณะ Günther-Klotz-Anlage เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายและเดินเล่น สวนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางและถูกออกแบบอย่างสวยงาม ไม่มีค่าเข้าชม และเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตลาดจัตุรัสเมือง สถานที่ที่คุณสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมของท้องถิ่น และลิ้มลองอาหารพื้นเมือง เช่น Flammkuchen ตลาดเปิดทุกวันและเป็นที่นิยมสำหรับทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ซูเอ็นซ์เบิร์กสตราเซ เป็นถนนที่มีชื่อเสียงในเมืองคาร์ลสรูอี ที่คุณสามารถเดินชมบ้านเรือนสไตล์นี้บาโรกและโรคอกโก้ที่งดงาม และยังมีร้านค้ามากมายให้เลือกช้อปปิ้ง ทาวน์ฮอลล์ (Rathaus) เป็นอาคารที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ฟื้นฟูศิลปวิทยาและทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการบริหารของเมือง ยังคงใช้สำหรับพิธีการราชการต่างๆ เปิดให้เยี่ยมชมฟรีการเดินทางรอบเมืองคาร์ลสรูอี คุณจะได้สัมผัสกับความมีชีวิตชีวาของเมืองที่ผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันได้อย่างลงตัว ทั้งยังมีโอกาสถ่ายรูปกับอาคารที่มีความสวยงามและจิบกาแฟริมถนนในบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก
เคลิน ซึ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อันน่าค้นหาใน ยุโรป มีสถานีรถไฟหลักที่เรียกว่า สถานีรถไฟเคลินกลาง (Kleinn Central Station) เป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญซึ่งเชื่อมต่อกับเส้นทางไปยังเมืองใหญ่ๆ อื่นๆ ในยุโรป นอกจากนี้ยังมี สถานีรถไฟเคลินตะวันออก และ สถานีรถไฟเคลินตะวันตก ซึ่งโดยมากให้บริการเส้นทางภายในประเทศหรือเส้นทางระยะสั้นไปยังเมืองใกล้เคียง
ที่ สถานีรถไฟเคลินกลาง ตั้งอยู่ที่ พลาตซ์ เดอ ไลเบอร์เต มีเวลาทำการตั้งแต่เวลา 05:00 น. ถึง 23:00 น. ทุกวัน นอกจากนี้ที่สถานียังมีบริการให้เก็บกระเป๋า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บสัมภาระชั่วคราวเพื่อท่องเที่ยวในเมืองหรือรอเวลาเดินทางต่อโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าที่หนักหรือไม่สะดวกในการพกพา
สถานีรถไฟหลักของคาร์ลสรูอี หรือ Karlsruhe Hauptbahnhof มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมการเดินทางทั้งในและนอกประเทศเยอรมนี นับเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญที่ผู้คนใช้เดินทางไปยังเมืองต่างๆ ในยุโรป สถานีนี้มีบริการสถานีรถไฟภายในเมือง ที่ช่วยให้การเดินทางไปยังต่างแห่งในคาร์ลสรูอีเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย
ที่อยู่ของสถานี Karlsruhe Hauptbahnhof คือ Bahnhofplatz 1, 76137 Karlsruhe, เยอรมนี สถานีเปิดบริการทุกวัน และมีเวลาทำการโดยประมาณตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 01:00 น. บริการฝากกระเป๋า ที่สถานีนี้นับเป็นหนึ่งในบริการที่สำคัญ ช่วยให้ผู้เดินทางสามารถเก็บสัมภาระไว้ได้อย่างปลอดภัยระหว่างเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ