คุณจะออกเดินทางจาก ลักเซมเบิร์ก ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง Luxembourg และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เคอล์น สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เคลิน.
คุณจะออกเดินทางจาก ลักเซมเบิร์ก ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง Luxembourg และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เคอล์น สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เคลิน.
Cheese, castles, and cobblestone streets - a visit to Luxembourg is a trip through Europe’s most delightful destinations. Whether you’re keen to explore Luxembourg’s historical sites or sample the country’s delicious local cuisine, there’s something for everyone. With its central location in the heart of western Europe, Luxembourg is the ideal destination for travelers looking for a unique, immersive experience. Here’s a list of the seven must-visit historical and architectural sites and what to eat when in Luxembourg.
Grand Ducal Palace: This is the official palace of the Grand Duke of Luxembourg and remains a key cultural hub in the city. Visiting the palace is free, and opening hours are 8am-4pm. Inside you’ll get to experience luxurious, gothic-style interiors, as well as a breathtaking view of the Alzette and Petrusse valleys.
Casemates of Luxembourg: This complex of underground tunnels was built in the 17th century and served as a fortress during the Napoleonic wars. It is located in the UNESCO-listed city centre, and the entrance fee is €6.50. Visitors will find tunnels, bunkers, and some stunning views of the city from the top of the fortress walls.
Bock Casemates: Also located in the city centre, the Bock Casemates are a network of tunnels built in the 10th century. It is said that this incredible fortress once housed up to 30,000 people, and is the most visited tourist attraction in the country. Entrance fees are €7.40, and opening hours are 8am-7pm.
Notre-Dame Cathedral: This intricate Gothic-style cathedral is also part of the UNESCO World Heritage Site. It is the most well-known and well-preserved religious building in Luxembourg, and has been standing since 1613. Entrance is free, and a guided tour can be booked in advance for a €6 fee.
Pattiserie Levallois: Visiting Luxembourg is not complete without sampling some of the country’s delicious pastries. Pattiserie Levallois is a must-visit for anyone who’s looking to taste some of the best pastries in the city. From the traditional kugelhopfs to the decadent éclairs, there’s something for everyone here.
Alzette Valley: The Alzette Valley is a nature reserve located in the south of Luxembourg and is the perfect spot for a day trip. Here, visitors can take a leisurely stroll along the river, or take a tour of the many castles and monuments that line the valley. An entrance fee of €4 per person is required to access the park.
Luxembourg City History Museum: Located in the heart of the city, the museum provides an in-depth insight into the history and culture of Luxembourg. The museum has a range of interactive displays and exhibits, as well as a cafe. There is an entrance fee of €7 for adults, and it is open from 10am-6pm.
A trip to Luxembourg is guaranteed to be a memorable one. From the historical and architectural sites to the delicious local cuisine, there’s something for everyone in this charming European city. So go explore and experience all that Luxembourg has to offer.
เคลิน ไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมของศิลปะสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ทำให้เป็นหนึ่งในเมืองที่น่าเยือนอย่างยิ่งในยุโรป
โบสถ์โคโลญจ์ (Kölner Dom): โบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเคลิน เป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพของพระมหากษัตริย์สามสิบกษัตริย์ โบสถ์เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00 - 19:30 น. ค่าเข้าชมฟรี แต่มีค่าบริการปีนเขาเพื่อชมวิวจากยอดเสา
พิพิธภัณฑ์ Ludwig: พิพิธภัณฑ์ที่โดดเด่นด้วยคอลเลคชันของงานศิลปะสมัยใหม่ รวมถึงผลงานของ พิคัสโซ่ และ แอนดี้ วอร์ฮอล ตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์โคโลญจ์ เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ค่าเข้าชม €12
อาคาร 4711: จุดเริ่มต้นของน้ำหอม Eau de Cologne ที่โด่งดังทั่วโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่ขายน้ำหอม แต่ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติและการผลิตน้ำหอม อยู่ใจกลางเมืองเคลิน
สะพาน Hohenzollern: สะพานข้ามแม่น้ำไรน์ที่มีชื่อเสียง จุดที่เหมาะแก่การถ่ายภาพและแขวนกุญแจรัก ให้วิวทิวทัศน์ของเมืองและโบสถ์โคโลญจ์ที่สวยงาม
โรงเบียร์ Früh am Dom: ลิ้มลอง Kölsch, เบียร์ท้องถิ่นของเคลิน ที่โรงเบียร์แห่งนี้ ซึ่งให้บรรยากาศเยอรมันแท้ๆ และอาหารพื้นเมืองที่อร่อยเยี่ยม
วิทยาลัย Wallraf-Richartz: พิพิธภัณฑ์ที่มีผลงานศิลปะยุโรปตั้งแต่ยุคกลางจนถึงสมัยบาโรก อัดแน่นด้วยผลงานของหลากหลายศิลปินชั้นนำ
สวน Flora und Botanischer Garten: สวนพฤกษศาสตร์ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และเดินเล่นในบรรยากาศที่สงบ
การเดินทางรอบเมืองเคลินจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง แนะนำให้ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3-4 วันในการสำรวจเมืองนี้อย่างละเอียด
Luxembourg is a small country in Europe and its main train station is Luxembourg Central Station. This station is served by national operators and international companies. It connects Luxembourg with the main cities in the surrounding countries. Additionally, there are other important train stations in the city such as Pétange-Aubange, Esch-sur-Alzette and Differdange.
Luxembourg Central Station is located at Place de la Gare, L-1616 Luxembourg. The station is open 24-7 and there is a ticket office with detailed information about timetables and tickets. It also offers services such as toilets, a baggage storage room and free Wi-Fi access. You can contact the staff at +352 2489 2489.
เคลิน ซึ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อันน่าค้นหาใน ยุโรป มีสถานีรถไฟหลักที่เรียกว่า สถานีรถไฟเคลินกลาง (Kleinn Central Station) เป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญซึ่งเชื่อมต่อกับเส้นทางไปยังเมืองใหญ่ๆ อื่นๆ ในยุโรป นอกจากนี้ยังมี สถานีรถไฟเคลินตะวันออก และ สถานีรถไฟเคลินตะวันตก ซึ่งโดยมากให้บริการเส้นทางภายในประเทศหรือเส้นทางระยะสั้นไปยังเมืองใกล้เคียง
ที่ สถานีรถไฟเคลินกลาง ตั้งอยู่ที่ พลาตซ์ เดอ ไลเบอร์เต มีเวลาทำการตั้งแต่เวลา 05:00 น. ถึง 23:00 น. ทุกวัน นอกจากนี้ที่สถานียังมีบริการให้เก็บกระเป๋า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บสัมภาระชั่วคราวเพื่อท่องเที่ยวในเมืองหรือรอเวลาเดินทางต่อโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าที่หนักหรือไม่สะดวกในการพกพา
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ